แม้ว่าบทบาทในช่วงเดือนแรกๆ ที่เจ้าหนูลืมตาขึ้นมา ดูเหมือนว่าภาระและหน้าที่ส่วนใหญ่จะตกเป็นของคุณแม่เกือบ จะทั้งหมดทั้งที่คุณพ่อก็นึกอยากจะช่วยใจจะขาด บางทีก็อาจรู้สึกว้าเหว่เหมือนถูกทอดทิ้ง ไม่รู้จะมีส่วนร่วมตรงไหนดี ให้นม ลูกก็ไม่ได้อุ้มลูกก็ยังเก้ๆ กังๆ ความเครียดเริิ่มถาโถมโดยเฉพาะหากเป็นทั้งคุณพ่อ คุณแม่มือใหม่ด้วยแล้วละก็ ต้องมีการปรับ ตัวมากๆเลยทีเดียวค่ะ แต่ไม่เป็นไรนะคะ ไม่ตั้งเครียด ไม่ต้องกังวลมากจนเกินไป หากทำความเข้าใจให้ดีแล้ว คุณพ่อสามารถ เป็นผู้ช่วยคนสำคัญของคุณแม่ได้ เพื่อให้ขวบปีแรกของลูกผ่านไปได้อย่าง Perfect!!!

1. เข้าใจและให้กำลังใจ

สิ่งนี้เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง ที่คุณพ่อจะช่วยให้ช่วงเวลานี้ผ่านไปได้อย่างราบรื่น ก็คือ ความเข้าใจ และคอยให้กำลังใจคุณแม่โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์แรกๆ เพราะช่วงนี้หลังคลอด คุณแม่ส่วนใหญ่มักจะตกอยู่ในภาวะซึมเศร้า เครียดวิตกกังวลมากมายไปหมด การคอยอยู่ข้างๆ เพื่อให้กำลังใจ ถึงแม้ว่าคุณพ่อจะช่วยอะไรไม่ได้มาก แต่อย่างน้อยก็สามารถช่วยให้คุณแม่ผ่านช่วงเวลาที่ยากนี้ไปได้โดยที่ไม่รู้สึกโดดเดี่ยว

2. ให้เวลาคุณแม่

สำหรับคุณพ่อที่ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน และมักมีนัดกับเพื่อนๆ อยู่บ่อยๆ ทั้งตอนเย็นหลังเลิกงาน รวมถึง ช่วยกลางวันในวันหยุดเสาร์์และอาทิตย์ ให้คุณพ่อพักกิจกรรมเหล่านี้ในช่วยเดือนแรกๆ หลังคุณแม่คลอดไปก่อนเพื่อให้คุณมีเวลาอยู่กับคุณแม่ และลูกน้อยได้อย่างเต็มที่ ช่วยเหลือในสิ่งที่คุณแม่ต้องการ ซึ่งก็คงไม่มีอะไรมากไปกว่า ช่วยอุ้มลูกสักพักเพื่อให้คุณแมได้มีเวลาดูแลตัวเองบ้าง เพราะคุณแม่ส่วนใหญ่มักเป็นกังวลเรื่องของรูปร่าง ผิวพรรณหลังคลอดมาก กลัวว่าจะไม่สวยงามเหมือนแต่ก่อน การให้คุณแม่ได้มีเวลาที่จะบำรุง ฟื้นฟูผิวพรรณหลังคลอด และจะดียิ่งขึ้นไปอีก หากคุณพ่อซื้อ คลอสเสริมความงาม หรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวพรรณไปเซอร์ไพร์คุณแม่ เพราะนั่นเป็นการแสดงถึงความใส่ใจและเป็นห่วงคนที่รัก

3. ปลอบลูกเมื่อลูกร้องไห้

การร้องไห้ของเด็กทารกเป็นการสื่อสารอย่างหนึ่ง ยิ่งหากลูกน้อยมีอาการร้องโคลิกด้วยแล้ว คุณแม่จำเป็นต้องมีผู้ช่วยหากคุณแม่ทำทุกทางแล้วลูกยังไม่หยุดร้องไห้ อาจจะต้องมีการเปลี่ยนมืออุ้ม เพื่อให้คุณแม่ได้พักจากเสียงร้องไห้ของลูก ซึ่งคุณอาจจะอุ้มเดินรอบๆบ้าน เปิดเพลงเบาๆ หรือร้องเพลงกล่อม หากคุณพ่อทำให้ลูกหยุดร้องไห้ได้ คุณจะรู้สึกภาคภูมิใจ เหมือนได้รับชัยชนะจากสมรภูมิรบเลยก็ว่าได้

4. ช่วยเหลือภารกิจในชีวิตประจำวัน

ในช่วงเดือนแรกๆ ลูกคงไม่ทำอะไรมากไปกว่าการนอน และการกินนม ซึ่งคุณก็ไม่สามารถให้นมลูกได้อยู่แล้วแต่เมื่อเจ้าตัวน้อยโตขึ้นในเดือนที่2 เดือนที่3 คุณแม่จะต้องกลับไปทำงาน และมีการปั๊มนมไว้ให้ คุณพ่ออาจจะอาสาเป็นผู้ให้นมลูกเองในทุกครั้งที่มีโอกาส ขณะให้นมหากพูดคุยเล่นหรือสบตากับเจ้าตัวน้อย ก็จะยิ่งทำให้เค้าอารมณ์ดีได้ แถมเป็นการสร้างความผูกพันได้ดีไม่ต่างจากการป้อนนมจากเต้าของคุณแม่

นอกจากนั้นกิจวัตรประจำวันอื่นๆ คุณพ่อก็สามารถช่วยคุณแม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการอาบน้ำ ซึ่งการอาบน้ำไม่ได้วิธีการที่ตายตัว เร่ิมจากเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม อ่างอาบน้ำ ฟองน้ำ ผ้าเช็ดตัว ผ้าอ้อม สำลีก้อน และผลิตภัณฑ์อาบน้ำโดยควรเลือกที่ปลอดภัย ไม่มีสารเคมีที่เป็นอันตราย อย่าง ไวท์พาเพล เจลอาบน้ำเด็กออร์แกนิค สามารถใช้ได้ทั้งอาบน้ำและสระผมล้างออกง่าย บำรุงผิวให้ชุ่มชื่น ถนอมผิิวเด็ก และการบำรุงผิวหลังอาบน้ำเป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน (โดยเฉพาะในขวบปีแรก) หากลูกน้อยมีผิวที่แห้งมาก อาบน้ำเสร็จปุ๊บผิวลอกเป็นขุยทันที หลังอาบน้ำควรทา นูริชชิ่ง โลชั่น ฟอร์มัมแอนด์ เบบี้ โลชั่น เพราะจะช่วยให้ผิวลูกน้อยนุ่ม อิ่มน้ำ ด้วยสารสกัดจากโอลิฟออยล์ ออร์แกนิค จะช่วยคืนความนุ่มและชุ่มชื่นให้ผิิว และคาแมลเลียออร์แกนิค Grape Seed Oil จะช่วยให้ผิิวไม่แห้ง สุขภาพดียิ่งขึ้น รวมไปถึง Rice Bran Oilหรือน้ำมันรำข้าวจะช่วยให้ผิวนุ่ม อีกทั้งยังมี Aloevera ที่ช่วยให้ผิวดูอิ่มน้ำและเย็นสบาย แถมปลอดภัยต่อผิิวบอบบาง แพ้ง่ายเพราะผลิตภัณฑ์ปราศจากสารเคมีที่ก่อนให้เกิิดอาการแพ้และระคายเคือง

ที่สำคัญควรมีการปกป้องผิวของลูกจากยุงด้วย เพราะยุงถือเป็นวายร้ายอันดับต้นๆของลูกน้อยเลย การเลือกผลิตภัณฑ์กันยุงจะต้องเลือกที่ปราศจากสาร DEET ไม่มีพาราเบน ไม่มีซิลิโคน ไม่เหนียวเหนอะหนะ คงความชุ่มชื้นกับผิวไว้อยู่เสมอ อย่าง ไวท์พาเพล โลชั่นกันยุงออร์แกนิค โลชั่นบำรุงผิิว สูตรปกป้องผิวจากยุงและแมลงรบกวน ด้วยประสิิทธิภาพของดอกลาเวนเดอร์และตะไคร้หอมสำหรับเด็ก เห็นไหมคะ การเป็นคุณพ่อมือใหม่ ไม่ได้ยากอย่างที่คิด…